Thursday, June 10, 2010

ไปทำ หนังสือเดินทาง (Passport) ที่กรมการกงศุลมา

ตื่นเต้นที่สุด (เวอร์ไปนิด)
เหตุการณ์ต่อเนื่องจากการส่งเปเปอร์ แล้วไปติด conference ที่ประเทศญี่ปุ่น เมือง Gifu และ เมื่อคืนก่อนฝนตก ตื่นสาย ทำให้ไม่ได้ไปทำงาน ตื่นมามึนหัวนิดหน่อย เลยลาป่วยดีกว่าเนอะ

ก็ออกเดินทางจากคอนโด 13.00 น. นั่ง taxi ไป กงศุล แจ้งวัฒนะเลย เท็กซี่ก็พาวิ่งออกไปทางสนามบินน้ำ เจอเค้ากำลังก่อสร้างกองสลากใหม่อยู่ด้วย ใหญ่โตสวยงามน่าดูชม นั่งรถไปซักพัก น่าจะครึ่งชม. ได้ก็ถึงละ

ขั้นตอนการทำหนังสือเดินทาง passport ออกนอกราชอาณาจักรไทย

  1. เตรียมเอกสารด้วย ซึ่งก็ไม่มีไร ใช้บัตรประชาชนใบเดียวพอ (ไม่ต้องถ่ายสำเนานะ) เตรียมเงิน ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และถ้าต้องการให้เค้าจัดส่งทางไปรษณีย์ก็เพิ่มอีก 35 บาท เท่ากันทั่วประเทศไทย
  2. เข้ากรมการกงศุลที่แจ้งวัฒนะ ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ได้เลย จากนั้นแล้วซ้าย เพื่อเข้าคิว รับบัตรคิว (ยื่นบัตรประชาชนตั้งแต่ตอนนี้เลย) ไฮโซจัง เอาบัตรเราไปรูดก็ขึ้นหมายเลขบัตรประชาชนทันที (เพิ่งรู้ว่าไอ้แถบแม่เหล็ก ตรงบัตรประชาชน มีไว้เพื่อสิ่งนี้นี่เอง)
  3. เค้าจะให้เอกสารเรามากรอก สิ่งที่ต้องกรอกก็ ชื่อ นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดเลยนะ แล้วก็ชื่อกับเบอร์โทร ของคนที่าสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน (สงสัยเอาไว้เวลาที่เราไปโดนจับในต่างแดน 5555)
  4. รอคิว ถึงแม้ว่าคนจะเยอะ ก็จริง แต่รอแปปเดียวเอง ของเรารอไม่เกิน 20 นาที (ราชการเค้าก็พัฒนาแล้วนะไม่ช้าเมื่อแต่ก่อน) เพราะว่า ช่องที่ทำ passport มี 62 ช่องทางเลยทีเดียว
  5. พอเค้าเรียกคิวก็เดินเข้าไปอีกห้องอีก ไปหาช่องที่เค้าบอก จากนั้นก็นั่งรอให้คนก่อนหน้าเราทำเสร็จก่อน
  6. ว๊าวววววว ได้ทำซักที อันเดียวแรกก็วัดส่วนสูง (อย่าลืมถอดรองเท้าก่อนละ ฮาๆๆๆ เราก็ลืม แต่เจ้าหน้าที่เค้าบอก เลยต้องถอด ตอนนี้เหลือความสูงที่ 173 ซม. เองอะ)
  7. ก็ยื่นเอกสารที่กรอกชื่อเรา ให้เจ้าหน้าที่ แล้วก็แต่งหน้า จัดทรงผม ถ่ายรูปเลย
  8. เก็บลายนิ้วมือ ใช้นิ้วชี้ ทั้งมือขวาและมือซ้าย
  9. กรอกแบบฟอร์ม จัดส่งทางไปรษณีย์ (optional) 
  10. รอให้พนักงานคีย์ข้อมูลแบบนึง ก็เสร็จละ
  11. เดินออกไปทางออก เพื่อชำระเงิน ค่าธรรมเนียม 1000 บาท ค่าส่ง EMS ไปรษณีย์ ได้หลังจากทำเสร็จไม่เกิน 5 วันทำการ 35 บาท เราว่ามันคุ้มกว่าเดินทางไปรับสมุดเองอะ
  12. เสร็จละกลับบ้านได้
คราวหน้าจะมาเล่าต่อว่าไปยื่นวีซาไปญี่ปุ่นต้องทำไงบ้าง รอไปก่อนนะ

ปล. เว็บไซต์ กรมการกงศุลนะ http://www.consular.go.th/

No comments: