Friday, October 9, 2009

รวบรวมบทความ การสร้างธุรกิจส่วนตัว

บทความที่ 1
กฎเหล็ก !! ของซอฟต์แวร์มือใหม่

แม้ ประเทศไทยจะพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของ ประเทศมานาน โดยมีการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์ปาร์ก) ที่ครบ 10 ปีในปีนี้ รวมถึงได้จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้าขึ้นมา

แต่จนถึงขณะนี้อุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์ไทยก็ยังไม่ได้แข็งแกร่งมากพอในการ แข่งขันในเวทีต่างประเทศ ส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทธุรกิจขนาดเล็กไม่สามารถสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้ มากมายเช่นที่คาดหวัง

ในงานครบรอบ 10 ปีซอฟต์แวร์ปาร์ก ได้เปิดเวทีให้กับกูรูที่ปลุกปล้ำกับธุรกิจซอฟต์แวร์มานาน อย่าง "ราเมศวร์ ศิลปพรหม" กรรมการผู้จัดการ บริษัทซอฟต์ สแควร์ กรุ๊ป และ "ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอฟอีซี จำกัด (มหาชน) มาเปิดเคล็ดลับการทำธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับผู้ประกอบการมือใหม่เก็บไว้ เป็นข้อคิดที่น่าสนใจ

เริ่มจาก "ราเมศวร์ ศิลปพรหม" แห่งบริษัทซอฟต์สแควร์ กรุ๊ปบอกว่า กลยุทธ์ "7-7-7-7" คือเคล็ดลับความสำเร็จและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด

7-7-7-7 คือเวลา 7 ปีที่ควรทำเรื่องต่างๆ ใน 4 ช่วงเวลา 7 แรก หมายถึง 7 ปีแรกที่มือใหม่ทั้งหลายควรเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และเงินทุน จากการเป็นลูกจ้างคนอื่น ไม่ว่าคุณจะเป็นเซียนเก๋าแค่ไหนในมหาวิทยาลัย มีรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย ถ้าขาดประสบการณ์แล้วใจกล้าตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ของตน ขึ้นมา บริษัทจะเจ๊งก่อนโต

"การขาดประสบการณ์ คิดแต่จะได้ ทำให้ไม่เห็นความเสี่ยง ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจและแก้ปัญหา ฉะนั้นใจเย็นๆ อย่าโลภ แต่จะเป็นลูกจ้างคนอื่นก็อย่าตั้งเป้าแต่เงินเดือนสูงๆ ต้องรู้จักวางแผนเก็บเงิน ถ้ามีเงินเก็บถึง 1 ล้านค่อยไปเริ่ม 7 ที่ 2"

7 ตัวที่ 2 คือช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การตั้งบริษัท โดยโฟกัสเฉพาะเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญและอุตสาหกรรมของลูกค้าที่รู้ลึกรู้จริง เพียง 1 อย่างก็พอ เพราะบริษัทซอฟต์แวร์ไม่ได้ขายแค่ซอฟต์แวร์ ต้องเข้าใจโมเดลธุรกิจของลูกค้าและรู้ว่าจะนำไอทีไปช่วยได้อย่างไร โดยอาจจับเทคโนโลยีที่ชอบแล้วเกาะติดเพื่อเติบโตไปพร้อมๆ กัน "ถ้าชอบ SUN ศึกษาเทคโนโลยีของ SUN พัฒนาซอฟต์แวร์มารองรับ เกาะติด SUN SUN โต เราโตด้วย เป็นกลยุทธ์ในการเติบโตได้"

ช่วงเวลานี้จะต้องสร้างโมเดลธุรกิจและเป้าหมายอย่างชัดเจน รวมถึงต้องใส่ใจกับการบริหารความเสี่ยง

"อย่า ตั้งเป้าไว้ที่รายได้ เพราะต้องลงทุนเยอะ ทั้งจ้างคนเพิ่มและอื่นๆ แต่ยอดขายก็อาจไม่มาและอาจทำให้เงินเหลือไม่เยอะ อย่างที่คิด ขอให้ตั้งเป้าไว้ที่เงินเหลือเพราะจะทำให้เราใส่ใจกับการควบคุมค่าใช้จ่าย"

หัวใจสำคัญคือ ต้องพัฒนาด้านมาร์เก็ตติ้งแข็งแรงกว่าด้านโปรดักต์อย่างน้อย 4 เท่า หมายความว่าโปรดักต์ต้องดีแต่ต้องมีมาร์เก็ตติ้งที่ดีกว่า

"ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ดีมานด์มีมากกว่าซัพพลายอยู่แล้ว มีบริษัทที่ต้องการคนมาพัฒนาซอฟต์แวร์เยอะแยะ ถ้าเราดีจริง"

7 ตัวที่ 3 คือช่วงเวลาสำหรับขยายกิจการ โดยขยายในแนวลึก ถ้าไม่จำเป็นอย่าขยายไปในสิ่งที่ไม่เชี่ยวชาญหรือข้ามอุตสาหกรรม ที่สำคัญคือการหาพันธมิตรและผลักดันลูกน้องที่เชี่ยวชาญขึ้นมามี ส่วนร่วมในการเติบโต อย่าคิดเก่งเพียง คนเดียวและอย่าลืมแบ่งปันผลกำไรให้ทั้งพนักงาน ลูกค้า และผู้ถือหุ้น

ก่อน จะเข้าสู่ช่วงเวลา 7 ปีสุดท้ายที่จะหาคนมารับช่วงต่อเพื่อเกษียณตัวเอง ซึ่งตอนนี้ "ซอฟต์สแควร์" ก็ถือว่าอยู่ในช่วงของการเข้าสู่ 7 ตัวสุดท้าย

หัวใจ สำคัญของการทำธุรกิจซอฟต์แวร์ ต้องโฟกัสที่เทคโนโลยีและลูกค้า เพราะถ้าเราไม่เก่งก็เจ๊ง แต่ถ้าถนัดและเชี่ยวชาญ คนอื่นก็แข่งยาก และโอกาสเจ๊งก็ยากเช่นกัน

"ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร" กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอ็มเอฟอีซี เสริมว่า กฎเหล็กสำหรับมือใหม่มี 3 ข้อ คือ

1.อย่า ลงทุนเปิดบริษัทกับเพื่อน ยิ่งหุ้นกันเกิน 3 คนยิ่งอย่าทำ เพราะช่วงวัยทำงานจะเห็นเงินเป็นเรื่องสำคัญ และเงินจะทำให้เสียเพื่อน นอกจากนั้นทุกคนจะชิงกันเป็นผู้นำเพราะเชื่อว่าสมองเท่ากัน ซึ่งบริษัทจะเติบโตได้ต้องมีผู้นำที่ตัดสินใจเด็ดขาด

2.ไม่ควรพึ่ง หรือยึดติดกับคนเก่ง บริษัทไม่ควรอยู่ได้เพราะคนคนเดียว สิ่งที่สำคัญในการบริหารงาน คือ ผู้นำ ซึ่งหลายๆ แห่งไม่ใช่ "นักไอที" แต่เป็นคนที่สามารถทำให้ทุกคนในบริษัททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะธรรมชาติของมนุษย์เวลามาทำงานร่วมกันจะทำงานน้อยกว่าศักยภาพจริง

3.อยาก หวังพึ่งโชคชะตาปล่อยไปตามยถากรรม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม เมื่อบริษัทมีเป้าหมายมีแผนงานแล้วต้องมุ่งไปให้ได้ ถ้าเจอปัญหาแล้วค่อยแก้ไข

และ 2 กูรูแห่งธุรกิจซอฟต์แวร์ไทย บอกตรงกันว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น มักมาจาก "do ในสิ่งที่ don"t และ don"t ในสิ่งที่ต้อง do"

ข่าว : ประชาชาติธุรกิจ

No comments: