Wednesday, April 30, 2008

มาวางแผนการเงินกัน

หลังจากที่ได้ผ่านการสอนและการแนะนำจากพี่ที่ soft sqaure เรื่องการวางแผนทางการเงินในอนาคตแล้ว รู้สึกว่ามันดีมากๆ เลยเอามาแบ่งปันกันดีกว่า
วิธีการนั้น ไม่มีอะไรตายตัวที่แน่นอน สามารถปรับแต่งได้ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล แต่สำหรับเรานั้น มีแนวทางดังนี้
  1. กำหนดเงินที่ต้องการเก็บในแต่ละเดือน โดยไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกเดือนก็ได้นะ เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละเดือนคงไม่เหมือนกัน เดือนนี้อาจจะเที่ยวเยอะหน่อย เดือนหน้าอาจจะต้องเรียน ซึ่งมันก็จะมีรายจ่ายที่แตกต่างกัน
  2. ก่อนจะซื้อของอะไร ต้องคิดให้ดีก่อนว่ามันจำเป็นแค่ไหน และถ้าซื้อมาแล้วมันมีประโยชน์อย่างไรต่อเราบ้าง
  3. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และไร้สาระ
  4. บันทึกรายรับ รายจ่าย ในแต่ละวัน โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน อย่างเช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าโทรศัพท์ ค่าเดินทาง ค่าหนังสือ ค่าของใช้ต่างๆ
  5. เก็บสถิติในแต่ละเดือนแล้วนำมาวิเคราะห์ย้อนหลัง เพื่อทำเป็นสถิติในแต่ละปี และยังเป็นการประมาณค่าใช้จ่ายที่เราจำเป็นต้องใช้ในแต่ละเดือนอีกด้วย
  6. ข้อนี้ก็สำคัญ เราต้องตั้งเป้าหมายเงินเก็บที่ต้องการมีในอนาคต เช่นในช่วง 1 ปี, 5 ปี, 10 ปีข้างหน้าว่าต้องการมีเงินเก็บเท่าไหร่ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เราไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นคือ รวย...

จากทั้งหมด 6 ข้อ จะเห็นว่าไม่ยากเลย ถ้าเราคิดว่าอยากจะรวย อยากจะมีเงินเก็บ ขึ้นอยู่กับว่า จะเริ่มต้นเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

Tuesday, April 8, 2008

มือสมัครเล่น VS มืออาชีพ

คุณรู้มั้ย มืออาชีพ ต่างกับมือสมัครเล่นตรงไหน ?

  • มือสมัครเล่น จะทำงานไม่สำเร็จ แม้ว่าเค้าอยากจะทำงานนั้นมากแค่ไหนก็ตาม และมีเหตุผลร้อยพัน ว่าทำไมมันถึงไม่สำเร็จ
  • ส่วนมืออาชีพนั้น จะทำงานสำเร็จเสมอ แม้ว่าเค้าจะไม่อยากทำงานนั้นๆ เลยก็ตาม ไม่ว่าจะเบื่อหน่าย เหนื่อย ใดๆ ก็ตามแต่ งานจะเสร็จเสมอ แม้ว่าบางครั้งเค้าก็บอกเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน
ที่มา: จากบทความใน internet น่าเสียดายที่จำเวปไม่ได้อะ

Thursday, April 3, 2008

เรื่องของ "น้ำ"

บทสัมภาษณ์ของดาราสาวสวยระดับนางเอกท่าน หนึ่ง เกี่ยวกับร่างกายของเธอที่มีการผิดปกติ เธอมีอาการอุจจาระไม่ออก เมนส์ไม่มา แถมเธอยังเข้าใจว่าการที่เมนส์มาบ้างไม่มาบ้างแล้วแต่อารมณ์นั้นเป็นเรื่องปกติขอผู้หญิงซะอีกเธอบอกว่าไม่ชอบดื่มน้ำเพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย ส่วนใหญ่พวกดาราก็มักเป็นอย่างนี้ เพราะต้องอยู่แต่ ในกองถ่ายจะหาห้องน้ำสะอาดๆยากเลยต้องอั้นอุจจาระปัสสาวะเอาไว้ หรือแก้โดยการไม่ดื่มน้ำจะได้ไม่ ต้องปัสสาวะ พฤติกรรมดังกล่าวนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะดาราหรอกครับมีอีกหลายอาชีพที่เป็นกันอย่างนี้ อาจจะ เป็นเพราะภาวะสังคมที่รีบเร่งแข่งขันกันท่านที่ทำงานนั่งอยู่กับคอมพิวเตอร์หรือพนักงานทำบัญชีด้วยแล้ว ไม่ค่อยอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำกันกลัวจะเสียเวลาทำงานหรือลืมเข้าห้องน้ำก็มี พอทำอย่างนี้ไปนานๆเข้าร่างกายเราก็สร้างความคุ้นเคยว่าไม่ต้องอุจจาระไม่ต้องปัสสาวะกันเลยโดยร่างกายเข้าใจว่าวิธี การนี้ถูกต้อง
ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำ 70 กว่าเปอร์เซนต์ เลือดเราประกอบด้วยน้ำ 90กว่าเปอร์เซนต์ กระดูกเราก็ประกอบด้วยน้ำ 22 เปอร์เซนต์ ร่างกายเราเสียน้ำวันละ 2 ลิตรเศษแล้วรับน้ำเข้าไปเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอเราก็ถือว่าขาดน้ำร่างกายและอวัยวะภายในจะรวนผิดปกติไปหมด เลือดเราจะข้นหนืด ยากที่หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายส่วนต่างๆของร่างกายหัวใจเองนั่น แหละจะตีบตันเสียก่อน ต้องทำบายพาสกันวุ่นวาย ความจำก็จะเสื่อมหรือเป็นอัลไซเมอร์เพราะเลือด เลี้ยงสมองไม่พอ เส้นเลือดก็จะตีบตันหมดหรือไม่มีเลือดจะขึ้นไปเลี้ยง จากประสบการณ์ที่พบคนไข้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมเป็นถึงระดับผู้บริหารใหญ่ๆก็หลายท่าน ดื่มน้ำวันละ2-3 แก้ว ไม่เกิน 500 ซี.ซี. เลือดก็ข้นหนืด เต็มไปด้วยไขมัน
สังเกตุได้หัวตาเหมือนกับเอาพู่กันป้ายสีขาวไว้และก็ฟันธงได้เลยว่าทุกรายถ้าดื่มน้ำอย่างนี้คลอเรสเทอรอลสูงทุกคน รอให้เส้นเลือดอุดตันได้เลย เมื่อไปหาหมอหมอก็จะจ่ายยาละลายลิ่มเลือดให้กิน มันก็เหมือนเราเอาสารส้มแกว่งในตุ่มน้ำเพื่อให้น้ำใสตะกอนเมื่อมันนอนก้นน้ำก็จะใส แต่ถ้าเอาอะไรไปแกว่งทำให้น้ำกระเทือน ตะกอนก็ยังจะลอยขึ้นมาทำให้น้ำขุ่นอีกอยู่ดีเช่นเดียวกัน เมื่อเรากินยาเลือดก็จะใส แค่ตะกอนในร่างกายมันยังไม่ออก ยังนอนก้นอยู่ใน ร่างกายเราดังนั้นเราต้องใช้น้ำพาตะกอนเหล่านั้นออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลับไปอุดตันเส้นเลือด เราอีก
เมื่อร่างกายขาดน้ำลำไส้ก็แห้ง ไม่มีน้ำที่จะพอเอาอุจจาระออกมาได้ของเสียก็จะสะสมอยู่ในลำไส้และ ลำไส้ก็ดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายอีก เลือดเราก็ยังสกปรกและข้นหนืดมากขึ้นไปอีก และลอง พิจารณาดูครับว่าเลือดที่เสียเมื่อเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วนั้น จะให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก มายเพียงใดที่ถูกแล้วเราควรจะอุจจาระ1-3 ครั้งทุกๆวัน ออกมาเป็นเส้นไม่เล็กนัก ปริมาณพอสมควรกับอาหารที่เราทานเข้าไป ไม่ใช่ทานเข้าไป 1 กิโลกรัม ถ่ายออกมา 1 ขีด ที่เหลือหายไปไหนหมด มันเข้าไปบำรุงร่างกายเราทั้งหมดหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราคงตัวโตเท่าช้างแน่ การที่รอบเดือนหายไป 5-6 เดือนหรือมาๆหยุดๆ แล้วแต่อารมณ์นั้นไม่ใช่เรื่องปกติของผู้หญิงทั่วไป ที่ถูก แล้วรอบเดือนจะช้าเร็วไม่ควรเกิน 7 วันถ้าผิดไปจากนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ยกเว้นแต่ตั้งครรภ์สำหรับดาราสาวท่านนี้ ดื่มน้ำน้อยมาก เลือดคงจะข้นหนืดผนังมดลูกคงจะแห้งไม่ลอกหลุดออกมาเมื่อมีไข่ ตกและไม่ได้รับการผสมพันธุ์เลือดนั้นก็ยังสะสมเป็นของเสียอยู่ที่ผนังมดลูกเดือนแล้วเดือนเล่า เมื่อช่อง ทางการขับของเสียดำเนินไม่ได้ตามธรรมชาติร่างกายก็จะสร้างรั้วขอบเขตเป็นถุง เป็นเนื้องอกมาหุ้ม ห่อของเสียนั้นไว้ของเสียก็จะค่อยๆกลายเป็นเนื้องอกและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
ช่องทางในการขับของเสียออกจะมีอยู่ 5 ช่องทางด้วยกันคือ
1. ไต ขับออกมาทางปัสสาวะ
2. ลำไส้ใหญ่ ขับออกมาทางอุจจาระ
3. ปอด ขับออกมาทางลมหายใจ
4. ผิวหนัง ขับออกมาทางเหงื่อ
5. รอบเดือน ขับออกมาทางประจำเดือน
เมื่อช่องทางการขับของเสียไม่สมบูรณ์หรือถูกปิดกั้นมันก็จะต้องพยายามหาทางออกให้ได้ เช่น ออกมาเป็น สิว ฝ้า กระ ฝี ริดสีดวง สิ่งเหล่านี้เป็นของเสียที่ร่างกายพยายามขับออกมาทั้งนั้นดังนั้นถ้าเรามีอาการ ดังที่กล่าวมา ก็ขอให้เราจงเข้าใจด้วยว่าร่า?กายเรามีของเน่าเสียอยู่ภายในแล้วมันเป็นสัญญาณเตือนภัย ที่เราไม่ควรมองข้าม หรือกินแต่ยา ฉีดยากดอาการเหล่านี้ไว้ไม่ให้แสดงออกเพราะนั่นไม่ใช่วิธีการรักษา หรือบำบัดโรคต่างๆให้หายไป แต่กลับเป็นการทำให้โรคหรืออาการนั้นรุกคืบไปเรื่อยๆเหมือนรุกใต้ดินโดย ที่เราไม่รู้สึกอะไร จะรู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อสายเสียแล้ว...
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : นิตยสารตั้งตัว ฉบับเดือน เมษายน

Wednesday, April 2, 2008

งานใหม่ และสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

ตอนนี้ได้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ละ ก็เปลี่ยนไปทำที่ EGAT บ้าง ขณะนี้ก็ทำงานมาได้ 1 เดือนแล้วตั้งแต่ต้นเดือน มีนาคม 2551 แต่จนถึง ณ บัดนี้เงินเดือนของเดือนที่แล้วยังไม่ออกเลย เดือนนี้เราจะเอาเงินจากไหนมาใช้จ่ายละเนี่ย ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ก็ต้องปรับตัวใหม่ ให้เข้ากับสังคมใหม่ๆ ช่วงนี้ก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน คงจะทำตัวเป็นเด็กๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วละ